การตรวจค่าความเสี่ยงของมะเร็งชนิดต่างๆ

การตรวจค่าความเสี่ยงของมะเร็งชนิดต่างๆ

ในยุคปัจจุบันที่อัตราการเกิดโรคมะเร็งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงในวิถีชีวิต การตรวจพบมะเร็งในระยะเริ่มต้นจึงมีความสำคัญยิ่ง เทคโนโลยีทางการแพทย์ได้พัฒนาขึ้น โดยเฉพาะการตรวจหาเซลล์มะเร็งจากการไหลเวียนของเลือด (Circulating Tumor Cells) ซึ่งช่วยในการตรวจหามะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก และมะเร็งลำไส้ เพื่อให้สามารถเริ่มการรักษาได้ทันท่วงที นายแพทย์นรินทร สุรสินธน จาก The Longevist Clinic ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับวิธีการตรวจคัดกรองมะเร็งที่ใช้กันในปัจจุบัน และแนะนำว่าควรมีการตรวจเช็คสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ เพื่อตรวจพบโรคในระยะเริ่มแรก

การตรวจหามะเร็งมักจะเริ่มจากการตรวจเลือดเพื่อดูค่า Tumor Marker ที่ได้แก่ AFP สำหรับมะเร็งตับ, CEA สำหรับมะเร็งลำไส้ และ PSA สำหรับมะเร็งต่อมลูกหมากในผู้ชาย และยังรวมไปถึง CA 125 สำหรับมะเร็งรังไข่, CA 153 สำหรับมะเร็งเต้านม และ CA 19-9 สำหรับมะเร็งตับอ่อน แม้ว่าการตรวจเหล่านี้จะช่วยในการติดตามผู้ที่มีมะเร็งแล้ว แต่ค่าที่ผิดปกติในคนปกติอาจไม่ได้บ่งบอกถึงการมีมะเร็งเสมอไป เช่น ค่า CEA ที่สูงอาจเกิดจากการสูบบุหรี่หรือเบาหวาน และค่า AFP ที่สูงในผู้ที่เป็นพาหะของไวรัสตับอักเสบ B หรือผู้หญิงตั้งครรภ์ ซึ่งไม่ได้หมายความว่ามีมะเร็งตับทุกครั้ง

นายแพทย์นรินทร ย้ำว่าหากพบค่าที่ผิดปกติจากการตรวจเหล่านี้ ควรจะมีการตรวจให้ละเอียดขึ้น เช่น การทำอัลตราซาวด์ตับหากค่า AFP สูง, การส่องกล้องลำไส้ใหญ่หากค่า CEA สูง หรือการทำอัลตราซาวด์ต่อมลูกหมากหากค่า PSA สูง นอกจากนี้ยังแนะนำว่าการตรวจมะเร็งควรตามมาตรฐานที่เหมาะสมกับอายุและเพศ เช่น การตรวจแป๊ปสเมียร์สำหรับมะเร็งปากมดลูกหลังอายุ 20 ปี หรือภายใน 3 ปีหลังจากมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก การตรวจมะเร็งเต้านมด้วยแมมโมแกรมและอัลตราซาวนด์หน้าอกตั้งแต่อายุ 40 ปี และการส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ทุก 5 ปีหลังจากอายุ 50 ปี

นายแพทย์นรินทร ตั้งข้อสังเกตว่าการตรวจพวกนี้มีประโยชน์ไม่เพียงแต่ในการค้นหามะเร็งเท่านั้น แต่ยังช่วยในการป้องกันโรคผ่านการเฝ้าระวังและการหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เช่น การสัมผัสสารพิษหรือการอยู่ในสภาวะเครียด การตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอและการมีการตรวจคัดกรองที่เหมาะสมจึงมีความสำคัญมากในการรักษาและป้องกันโรคมะเร็งในระยะเริ่มแรก ซึ่งสามารถนำไปสู่การรักษาที่มีผลลัพธ์ที่ดีขึ้นและลดโอกาสในการพัฒนาสู่ระยะที่รุนแรงได้

โปรแกรมตรวจรหัสพันธุกรรมของเซลล์มะเร็ง

ทั้งนี้ The Longevist Clinic ได้มีโปรแกรมตรวจหารหัสพันธุกรรมของเซลล์มะเร็ง เพื่อตรวจหาความเสี่ยงที่ก่อให้เกิดมะเร็งร้ายในอนาคต เพื่อทำการวางแผนในการป้องกันการเกิดโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ

รายละเอียดเพิ่มเติม link :: โปรแกรมตรวจรหัสพันธุกรรมของเซลล์มะเร็ง